ผลตอบแทนของการสร้างแบรนด์

04 Dec 2019
Thailand

แบรนด์ของคุณมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใดในตลาด ?

ในตลาดที่มีความท้าทาย และมีการแข่งขันสูงเช่นนี้ การทำแบรนด์ให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค จะทำให้ลูกค้าเป้าหมายระลึกถึงแบรนด์ของคุณได้ในอันดับต้นๆ ผู้บริโภคในทุกวันนี้แสวงหาประสบการณ์มากกว่าราคา ดังจะเห็นได้จากชีวิตประจำวันที่มีผู้บริโภคบางกลุ่มยินดีที่จะจ่ายค่ากาแฟ 180 บาท ในคาเฟ่แห่งหนึ่ง ทั้งๆที่พวกเขาสามารถซื้อสินค้าแบบเดียวกันในราคาต่ำกว่า 60 บาท ที่ไหนก็ได้ หากเข้าใจแนวคิดนี้ คุณจะพบว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับกาแฟเพียงอย่างเดียว แต่มันบ่งบอกถึงความต้องการด้านประสบการณ์ บรรยากาศ การบริการ และการตอบเสนองความต้องการของพวกเขา หรือสรุปง่ายๆทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็คือ “ความน่าเชื่อถือ” ที่มักแฝงมาพร้อมกับภาพลักษณ์แบรนด์ที่สะท้อนความต้องการของผู้บริโภคอะไรบางอย่าง เราจึงได้ศึกษาจากสถานการณ์เมื่อปีก่อนเพื่อหาแนวทางในการรักษาแบรนด์ ซึ่งประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆดังนี้

1. ตอบโจทย์ผู้บริโภค (Stay relevant)

โลกที่เต็มไปด้วยสื่อและข้อมูลข่าวสารในทุกวันนี้ เอกลักษณ์ของแบรนด์สินค้าที่ทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้เป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จ
การโดดเด่นท่ามกลางคู่แข่งที่มากมายอาจเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อคุณเข้าใจหลักการถูกต้อง มันจะเป็นก้าวแรกที่จะทำให้คุณแตกต่างจากคู่แข่ง คุณต้องมีความเข้าใจถึงสิ่งที่ลูกค้าของคุณสามารถรับรู้และจดจำเกี่ยวกับแบรนด์สินค้าของคุณให้ถ่องแท้เสียก่อน เพื่อต่อยอดจากสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วและพัฒนาต่อไป อย่าวางตำแหน่งตัวเองเหมือนกับดีเวลลอปเปอร์รายอื่นๆ เราต้องมีสิ่งที่แตกต่างออกไป ประเด็นที่ควรพิจารณาก็คือ การโฆษณาตัวคุณเอง ควรตรวจสอบเสียก่อนว่าโฆษณาของคุณเหมือนกับคู่แข่งหรือไม่ จงอย่าเหมือนใคร! เราต้องสร้างบรรยากาศให้โครงการของเราดูมีเอกลักษณ์ มีการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้ง แทนที่จะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด เราควรหาวิธีที่จะยั่วยวนให้ผู้อ่านต้องการติดตามต่อ ค่อยๆปล่อยแคมเปญ ลองมุ่งเน้นที่การโฆษณาแบบวิดีโอมากขึ้น เนื่องจากวิดีโอเป็นสื่อที่สังคมออนไลน์ให้ความสำคัญมากที่สุด สร้างที่มาของบริษัทบนโลกโซเชียลมีเดีย เพื่อพวกเขาเห็นว่าเรามีตัวตนอยู่จริงๆ ไม่ใช่บริษัทที่ไม่มีใครรู้จัก มุ่งเน้นไปที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไลฟ์สไตล์ของทำเลที่เรานำเสนอ เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถเห็นภาพออก ว่าถ้าพวกเขาจะอยู่อาศัยบนพื้นที่ตรงนั้นจริงๆ ชีวิตพวกเขาจะเป็นอย่างไร นี่คงเป็นเพียงความคำแนะนำเล็กๆน้อยๆ แต่ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ให้วิคราะห์เสียก่อนว่าคู่แข่งของคุณกำลังทำอะไร และเราควรต้องทำอย่างไรให้แตกต่างออกไป!

2. เป็นที่ปรึกษาที่น่าเชื่อถือให้กับผู้หาบ้าน

เมื่อตลาดกลุ่มวัยทำงานในเอเชีย ผู้กำลังมองหาอสังหาฯสำหรับอยู่เองและลุงทุนเริ่มเติบโตขึ้น พวกเขาจึงต้องการที่ปรึกษาที่มีความเป็นมืออาชีพให้คำแนะนำ เพื่อสร้างความมั่นใจในการซื้ออสังหาที่ตอบโจทย์ สอดคล้องกับรายได้และงานของพวกเขาได้
แม้ว่าความเป็นผู้นำทางความคิดเป็นเครื่องมือสำคัญในแสดงเอกลักษณ์ของแบรนด์สินค้า แต่การรู้จักว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร ความต้องการคืออะไร จะช่วยให้คุณตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้แบรนด์ของคุณเข้าถึงผู้บริโภคได้ เราอาจจะต้องปรับกุลยุทธ์การสื่อสาร, เทคนิคการโพสต์บล็อก, การสร้างคอนเทนต์ต่างๆให้น่าสนใจ และเชื่อมต่อกัน
การทำความเข้าใจพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายของคุณและความต้องการของพวกเขา จะช่วยให้คุณสร้างเครื่องมือและกระบวนการที่ส่งมอบประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างลงตัว นี่เองที่ทำให้คุณเป็นดีเวลลอปเปอร์ที่น่าเชื่อถือ หรือกล่าวอีกอย่างก็คือ คุณต้องพยายามขายแบรนด์ของคุณ เพื่อให้โครงการของคุณสามารถขายตัวเองได้
การสื่อสารในสื่อต่างๆควรมุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ของสไตล์ มากกว่าแค่ลักษณะของตัวอสังหา เนื่องจากผู้บริโภคมักตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์และค่อยๆหาเหตุผลสนับสนุนทีหลัง ดังนั้นการให้ข้อมูลที่มากเกินไปในโฆษณาของคุณอาจทำให้มีผู้ซื้อบางกลุ่มตัดโครงการคุณออกจากตัวเลือก เนื่องจากใช้ข้อมูลที่คุณนำเสนอมาตัดสินก่อนที่พวกเขาจะได้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

3. สร้างเป้าหมายที่วัดได้

กำหนดตัววัดเพื่อช่วยให้คุณและทีมของคุณสามารถประเมินยอดขายจากการสร้างแบรนด์ของคุณ ลองออกแบบเครื่องมือเพื่อวิเคราะห์แบรนด์ของคุณ โดยมีวัตถุประสงค์ให้ข้อมูลที่ได้นั้นอธิบายว่าคุณควรพาแบรนด์ไปในทิศทางใด และเครื่องมือยังใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานเพื่อประเมินผลลัพธ์จากแบรนด์ได้อีกด้วย
ในขั้นตอนแรกของการสร้างแบรนด์ คุณควรมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงดรรชนีชี้วัดต่างๆ เช่น ทราฟฟิค, ความเชื่อมั่นของลูกค้า, การมีส่วนร่วมกับโซเชียลมีเดีย (engagement) และการกล่าวถึงสื่อ อย่างไรก็ตาม คุณยังคงต้องให้ความสำคัญกับตัวชี้วัดในแง่ของรายได้ที่มาจากจำนวนการค้นหาโดยตรง ในกรณีออฟไลน์ คุณควรสอบถามลูกค้าว่ารู้จักบริการของคุณได้อย่างไร หรือขอให้พวกเขาทำแบบสอบถามหลังการซื้อ เมื่อแบรนด์ของคุณเป็นที่ยอมรับ ตัวชี้วัดด้านยอดขายและรายได้จึงค่อยๆมีความสำคัญมากขึ้น ตัวชี้วัดนี้ไม่ควรเป็นแค่ตัวชี้วัดรอง แต่ควรเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจของคุณในขั้นต่อๆไป
การเห็นภาพที่ชัดเจนว่าคุณอยู่จุดไหนในตลาดในวันนี้ และการใช้ตัวชี้วัดที่วัดได้จริง จะทำให้แบรนด์ของคุณอยู่ในตำแหน่งที่ดียิ่งๆขึ้นไป ดังนั้นการลงทุนสร้างแบรนด์จึงเป็นการสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของธุรกิจของคุณในอนาคต

4. ลงทุนกับการสร้างประสบการณ์ของลูกค้า (ทั้งออนไลน์, ออฟไลน์ และตลอดเวลา)

คงไม่ต้องบอก หากคุณไม่เพิ่มการเรียนรู้ประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภคไปพร้อมๆกับการสร้างแบรนด์ของคุณ ความพยายามในการสร้างแบรนด์ของคุณก็จะไร้ค่า ไม่ต่างอะไรกับการทาสีบนผนังที่แตกร้าว ไม่ได้อะไรกลับคืนมา ผู้บริโภคมีมักจะรับรู้สิ่งที่คุณพยายามนำเสนอ หากคุณสื่อสารได้ตรงจุด แน่นอนว่าผู้บริโภคสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์ไปในทิศทางที่ถูกต้องได้ไม่ยาก
ในฐานะนักการตลาด เราต้องจำไว้ว่าผู้บริโภคจะไม่ยึดติดกับแบรนด์ของคุณ พวกเค้ามักมองหาทางเลือกอื่นๆเสมอ นั่นหมายความว่าคุณจะไม่สามารถนิ่งนอนใจกับความสำเร็จในปัจจุบันได้ คุณภาพของประสบการณ์ของผู้บริโภคจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ของคุณแตกต่าง และควรขับเคลื่อนโดยทุกๆคนในองค์กรของคุณ คุณต้องแน่ใจว่าคุณกำลังสื่อสารแบรนด์และคุณค่าของมันให้กับพนักงานในองค์กรณ์ตัวเองด้วยเช่นกัน เพื่อให้พวกเขาสามารถส่งมอบประสบการณ์แบรนด์ผ่านการโต้ตอบกับลูกค้าของพวกเขา ความสำเร็จของคุณ คือ การสร้างความภักดีต่อแบรนด์สินค้าให้กับลูกค้า และในท้ายที่สุด คุณจะได้ใจทีมทั้งหมดของคุณ แม้ว่าสินค้าและบริการอาจทำยอดขายเพียงในระยะสั้น แต่การสร้างความภักดีต่อแบรนด์ที่ยั่งยืน จะช่วยให้คุณสร้างฐานผู้บริโภคที่แข็งแกร่งในระยะยาว มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งรายอื่นๆ
ต้องขอบคุณยุคดิจิตอล ที่ช่วยที่ช่วยให้สามารถรู้จักลูกค้าของคุณให้ดีขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นอย่าเสียโอกาสนี้เป็นอันขาด จงใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อสร้างความเข้าใจให้ลึกซึ้ง หาความต้องการและวิธีการตอบโจทย์ผู้บริโภคเหล่านั้นโดยการเพิ่มประสบการณ์ให้แก่พวกเขา

5. เลือกพันธมิตรที่เหมาะสม

การเลือกพันธมิตรที่เหมาะสมเพื่อบอกเล่าเรื่องราวแบรนด์ของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งก็เหมือนกับการสร้างความสัมพันธ์ที่คุณต้องใช้เวลาและความทุ่มเท เพื่อค้นหาและสร้างความไว้วางใจกับเอเจนซี่และพันธมิตรทางสื่อที่เหมาะสม
ในการเลือกเอเจนซี่ ลองเข้าไปเชคหน้าสื่อออนไลน์ของพวกเขา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาทำได้อย่างที่โปรโมทไว้หรือไม่ ลองดูผลงานต่าง เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาสามารถรับมือกับงานได้ตามที่คุณคาดหวัง ค้นหาด้วยว่าพวกเขายินดีที่จะมีส่วนร่วมกับงานของคุณอย่างต่อเนื่อง พวกเขาทำงานสอดคล้องกับธุรกิจของคุณมากแค่ไหน หรือมีความ(พยายาม)เข้าใจในธุรกิจของคุณมากแค่ไหน พวกเขามีแผนคิดหากลยุทธ์ใหม่ๆเหนือจากสิ่งที่คุณทำอยู่ในปัจจุบันบ้างหรือไม่ พวกเขาสามารถสร้างมูลค่าได้หรือไม่ พวกเขาให้บริการที่หลากลายมากพอที่จะครอบคลุมสิ่งที่คุณวางแผนไว้หรือไม่ พวกเขามีวิธีการในการจัดการโครงการของคุณอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ จากคำถามที่ต้องพิจารณาเหล่านี้ ทำให้คุณต้องกำหนดเวลาและตัวชี้วัดเพื่อตรวจสอบว่าพาร์ทเนอร์สามารถทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่
การทำความเข้าใจถึงวิธีการที่จะได้รับสิ่งที่คุณต้องการจากสื่อนั้นถือว่ามีความสำคัญ เช่นเดียวกับการสื่อสาร และกลยุธท์การเลือกสื่อที่มีความสร้างสรรค์ ที่ DDproperty เรามุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภค ให้สามารถสัมผัสและเข้าถึงข้อมูลที่ตรงต่อความต้องการผู้บริโภค และยังมีเทคโนโลยีเพื่อดึงดูดผู้ค้นหาและผู้ขายอสังหาริมทรัพย์ โดยพื้นฐานภารกิจของเรา คือ การสร้างความไว้วางใจในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และแสวงหาความร่วมมือกับบริษัทต่างๆ ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือต้องการสร้างสรรค์อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียให้มีประสิทธิภาพ
การสร้างความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือจะช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์และทำให้เกิดผู้สนับสนุนต่อแบรนด์ที่ยั่งยืน ดังนั้น การลงทุนสร้างแบรนด์ที่น่าเชื่อถือจึงเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในสร้างความเติบโตแก่ธุรกิจของคุณ เชื่อได้เลยว่าผลตอบแทนจากการลงทุนนี้จะต้องคุ้มค่ากับความทุ่มเทแน่นอน